กลับมาอีกครั้งครับหลังจากหายไปหลายวัน วันนี้ขอแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์นะครับ
ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ (Engine Cooling System) จะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลายตัว แต่ก่อนที่จะไปคุยกันเรื่องของอุปกรณ์ ขอคุยเรื่อง "ทำไมเครื่องยนต์ต้องมีระบบระบายความร้อน" ก่อนนะครับ
เครื่องยนต์ทำงานด้วย "พลังงานความร้อน" ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานกลด้วยการดันลูกสูบและชิ้นส่วนอื่นของเครื่องยนต์ให้เกิดการเคลื่อนที่ เครื่องยนต์จึงมีความร้อนทั้งจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเองและการเสียดสีของชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในกระบอกสูบนั้นจะเกิดพลังงานความร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 3,000 องศา อุณหภูมิที่ผิวของลูกสูบจะอยู่ประมาณ 900 องศาและอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 85-90 องศาเซลเซียส กรณีที่อุณหภูมิของเครื่องยนต์ไม่คงที่นั้น จะส่งผลเสียกับเครื่องยนต์
• ถ้าอุณหภูมิของเครื่องยนต์สูงมากๆ จะทำให้ไอดีที่จะเข้ากระบอกสูบนั้นขยายตัวเร็วเกินไป จะทำให้เกิดการน็อกได้ง่าย
• ถ้าเครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำมากๆ จะทำให้การแตกตัวของไอดีทำได้ยาก ไอดีจะกลั่นตัวแล้วเกาะตามผนังกระบอกสูบ ทำให้ฟิล์มของน้ำมันหล่อลื่นที่เคลือบผิวกระบอกสูบถูกชะล้างออกไป ทำให้เกิดการสึกหรอมากขึ้น เพราะไม่มีฟิล์มของน้ำมันเครื่องคอยป้องกัน นอกจากนั้นการเผาไหม้ก็จะไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำมาก ทำให้การแตกตัวของไอดีทำได้ยาก การเผาไหม้จึงไม่สมบูรณ์ อีกทั้งจะทำให้หัวเทียนบอดง่าย
การแก้ไขปัญหาทั้งสองอย่างนี้ก็คือการรักษาอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ให้คงที่ ระหว่าง 85-90 องศาเซลเซียส เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบระบายความร้อนนั่นเองครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.grandprixgroup.com/
หากเพื่อนๆ ต้องการความรู้เรื่องใด้เพิ่มเติม บอกได้นะครับ จะพยายามหาข้อมูลมาให้...พบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ
ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ (Engine Cooling System) จะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องหลายตัว แต่ก่อนที่จะไปคุยกันเรื่องของอุปกรณ์ ขอคุยเรื่อง "ทำไมเครื่องยนต์ต้องมีระบบระบายความร้อน" ก่อนนะครับ
เครื่องยนต์ทำงานด้วย "พลังงานความร้อน" ที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นนั้นจะถูกเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานกลด้วยการดันลูกสูบและชิ้นส่วนอื่นของเครื่องยนต์ให้เกิดการเคลื่อนที่ เครื่องยนต์จึงมีความร้อนทั้งจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงเองและการเสียดสีของชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในกระบอกสูบนั้นจะเกิดพลังงานความร้อน ที่มีอุณหภูมิสูงถึงประมาณ 3,000 องศา อุณหภูมิที่ผิวของลูกสูบจะอยู่ประมาณ 900 องศาและอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 85-90 องศาเซลเซียส กรณีที่อุณหภูมิของเครื่องยนต์ไม่คงที่นั้น จะส่งผลเสียกับเครื่องยนต์
• ถ้าอุณหภูมิของเครื่องยนต์สูงมากๆ จะทำให้ไอดีที่จะเข้ากระบอกสูบนั้นขยายตัวเร็วเกินไป จะทำให้เกิดการน็อกได้ง่าย
• ถ้าเครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำมากๆ จะทำให้การแตกตัวของไอดีทำได้ยาก ไอดีจะกลั่นตัวแล้วเกาะตามผนังกระบอกสูบ ทำให้ฟิล์มของน้ำมันหล่อลื่นที่เคลือบผิวกระบอกสูบถูกชะล้างออกไป ทำให้เกิดการสึกหรอมากขึ้น เพราะไม่มีฟิล์มของน้ำมันเครื่องคอยป้องกัน นอกจากนั้นการเผาไหม้ก็จะไม่ค่อยสมบูรณ์นัก เนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำมาก ทำให้การแตกตัวของไอดีทำได้ยาก การเผาไหม้จึงไม่สมบูรณ์ อีกทั้งจะทำให้หัวเทียนบอดง่าย
การแก้ไขปัญหาทั้งสองอย่างนี้ก็คือการรักษาอุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์ให้คงที่ ระหว่าง 85-90 องศาเซลเซียส เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้ประโยชน์จากระบบระบายความร้อนนั่นเองครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.grandprixgroup.com/
หากเพื่อนๆ ต้องการความรู้เรื่องใด้เพิ่มเติม บอกได้นะครับ จะพยายามหาข้อมูลมาให้...พบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ
No comments:
Post a Comment